top of page

จริงหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่พร้อมและต้องการ เด็กจะพูดภาษาอังกฤษออกมาได้เอง


หลายวันก่อนผมได้อ่านโพสหนึ่งในเพจของคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ที่พูดถึงการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาไทยของลูกสาวของคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งผมขออนุญาตยกข้อความมาให้ทุกคนได้อ่านกันตามด้านล่างนี้นะคับ

จะเห็นได้ว่า เด็กคนนี้สามารถเขียนภาษาไทยได้เอง โดยไม่ต้องมีใครบังคับและยังได้เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะอื่นๆที่จำเป็นต่อวัยของเขาอย่างทักษะชีวิต จิตใจ และคุณธรรมได้อีกด้วย

เรื่องนี้คล้ายกับแนวคิดที่ศาสตราจารย์สตีเฟน คราเชน (Stephen Krashen) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ (linguistic) และการเรียนรู้ภาษาที่สอง (second-language learning) ในสหรัฐอเมริกา เคยกล่าวไว้ว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็เหมือนกับการเติมน้ำลงไปในแก้วเปล่า การได้ฟังและการได้อ่านภาษาอังกฤษนั้นๆ เปรียบได้กับการเติมน้ำลงไปในแก้วใบนั้น และเมื่อเติบถึงจุดๆหนึ่ง น้ำก็จะล้นออกมาจากแก้วใบนั้น เหมือนกับเด็กๆที่ซึบซับภาษาอังกฤษมากพอแล้วรู้ว่าคำหรือประโยคที่อยากจะสื่อสารออกไปนั้นคือคำไหน เรียกว่าอะไร รู้สึกว่าตนเองมั่นใจและพร้อมแล้ว เด็กก็จะพูดภาษาอังกฤษออกมาเองโดยที่ไม่มีใครบังคับ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเรียนภาษาไทยจากคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติพี่น้องภายในบ้านที่อยู่รอบตัวเด็กนั่นเอง เด็กจะฟังสิ่งต่างๆที่พ่อแม่พูดออกมา และซึมซับภาษาเหล่านั้นจนถึงเวลาหนึ่งที่เขาพร้อมและต้องการ เขาก็จะพูดออกมาเป็นคำๆให้พ่อแม่ได้ยินดีชื่นใจ ก่อนจะค่อยๆพัฒนาจนพูดเป็นประโยคสั้นๆ และประโยคยาวๆได้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษแบบ communicative language teaching ได้ที่นี่นะคับ)

แล้วเราในฐานะพ่อแม่หรือครูผู้สอนสามารถช่วยอะไรพวกเขาได้บ้างล่ะ? สิ่งที่เราสามารถช่วยได้คือการกระตุ้นการเรียนรู้ของพวกเขาผ่านการอ่านและการฟังอย่างมีคุณภาพ เช่น

  • การอ่านนิทานในเด็กเล็ก

  • การดูหนังการ์ตูนสั้นๆร่วมกันเป็นภาษาอังกฤษภายในเวลาที่กำหนดพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่

  • การพูดคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาอาจจะไม่ต้องตอบออกมาเป็นคำพูดก็ได้ และเราอาจต้องประเมินว่าเขาเข้าใจสิ่งที่เราพูดหรือไม่ผ่านการพยักหน้าหรือท่าทางอื่นๆแทน

  • การสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ดีว่าการทำผิดพูดผิดไม่ได้เป็นความล้มเหลวหรือความผิดร้ายแรง แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ทักษะที่ฝึกฝนได้ (ลองนึกถึงตอนเราเด็กๆแล้วเราต้องตักข้าวกินเองเป็นครั้งแรกก็ได้คับ มันคงเลอะเทอะน่าดูสำหรับพ่อแม่เราที่ต้องมาทำความสะอาด แต่เราก็ได้ฝึกและค่อยๆทำได้ดีขึ้นใช่ไหมคับ)

ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยเติมน้ำลงไปในแก้วของเขาลงไปเรื่อยๆ และรอว่าเขาจะพร้อมและต้องการที่จะพูดเมื่อไหร่ ที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า แก้วของเด็กแต่ละคนลึกไม่เท่ากัน ความพร้อมที่จะพูดออกมาของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากันด้วย และการบังคับไม่ใช่เรื่องที่ดี เราไม่สามารถบังคับให้เด็กพูดภาษาอังกฤษออกมาได้ หรือถึงแม้เขาจะพูดออกมา แต่นั่นอาจส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเขาในระยะยาวมากกว่า โดยเฉพาะหากเขารู้สึกว่า ภาษาอังกฤษคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกดดัน บีบคั้นและไม่มีความสุข

ผมอยากจะสรุปส่งท้ายว่า การเรียนรู้เพื่อที่จะพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษให้ได้นั้นไม่ใช่การแข่งขัน เพราะคนแต่ละคนมีความพร้อมไม่เท่ากัน เราในฐานะพ่อแม่หรือครูผู้สอนทำได้ดีที่สุดคือการสนับสนุนให้เขามีความพร้อมมากที่สุดและเฝ้ารอที่เขาจะพูดออกมา เหมือนเวลาที่เราปลูกต้นไม้แล้วเฝ้ารอให้ให้มันออกดอกนั่นเองคับ

Featured Posts
Recent Posts
Archive
Follow Us
Search By Tags
  • Facebook Basic Square
  • YouTube Social  Icon
bottom of page